ชื่อโดเมนของเว็บไซต์ (Domain Name) คืออะไร

21 มิถุนายน 2566
ชื่อโดเมนของเว็บไซต์ (Domain Name) คืออะไร

ในโลกออนไลน์ปัจจุบัน เว็บไซต์เป็นส่วนสำคัญของธุรกิจและการสื่อสาร แต่เมื่อพูดถึงเว็บไซต์ หนึ่งในสิ่งสำคัญของเว็บไซต์คือ ชื่อโดเมน (Domain Name) ในบทความนี้ เราจะทำความเข้าใจและเรียนรู้เกี่ยวกับชื่อโดเมนคืออะไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง โดเมนทำงานอย่างไร ประเภทของนามสกุลโดเมนมีอะไรบ้าง แต่ละประเภทใช้งานต่างกันอย่างไร ไปเริ่มกันเลย

ชื่อโดเมนคืออะไร?

ชื่อโดเมน (Domain Name) คือ ชื่อที่ใช้ระบุและบ่งบอกถึงที่อยู่ของเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ต แทนการจำ IP Address ซึ่งเป็นชุดของตัวเลข มันเป็นเรื่องยากสำหรับการที่จะจำชุดของตัวเลข ด้วยเหตุนี้ ชื่อโดเมนจึงได้รับการพัฒนาและใช้เพื่อระบุตัวตนบนอินเทอร์เน็ต โดยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจะพิมพ์ชื่อโดเมนในแถบ URL (Uniform Resource Locator) ของเบราว์เซอร์เพื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ

โดยส่วนที่เป็นโดเมนจะประกอบด้วยชื่อโดเมน (Domain Name) ชื่อโดเมนสามารถเป็นได้ทั้งตัวอักษรและตัวเลขผสมกัน และส่วนที่เรียกว่านามสกุลโดเมน เช่น .com, .net, .org, .co.th, .ac.th เป็นต้น

โดเมนทำงานอย่างไร

ชื่อโดเมนเป็นตัวแทนที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย โดเมนทำงานโดยใช้ระบบที่เรียกว่า Domain Name System (DNS) เพื่อแปลงชื่อโดเมนเนมเป็นที่อยู่ไอพี (IP Address) ที่เข้าใจได้ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยลักษณะการทำงานของโดเมน มีดังนี้

  1. ค้นหา DNS : เมื่อผู้ใช้ป้อน URL ลงในเบราว์เซอร์ เช่น www.example.com ระบบเบราว์เซอร์จะทำการค้นหาเซิร์ฟเวอร์ DNS ที่เป็นตัวกลางเพื่อตรวจสอบข้อมูลโดเมนนี้

  2. สอบถาม DNS : เบราว์เซอร์จะส่งคำขอไปยังเซิร์ฟเวอร์ DNS ที่ได้รับมอบหมาย และสอบถามว่ามีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโดเมนนี้หรือไม่

  3. การแปลงชื่อโดเมน : หากเซิร์ฟเวอร์ DNS มีข้อมูลเกี่ยวกับโดเมนที่ถูกสอบถาม เซิร์ฟเวอร์ DNS จะส่ง IP Address ที่เกี่ยวข้องกับโดเมนนั้น โดย IP Address คือตัวเลขที่ระบุตำแหน่งของเว็บไซต์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

  4. เรียกใช้เว็บไซต์ : เมื่อได้รับที่อยู่ IP ผ่านการแปลงชื่อโดเมน บราวเซอร์จะเรียกใช้งานเว็บไซต์โดยใช้ IP Address นั้น และโหลดเนื้อหาของเว็บไซต์เพื่อแสดงผลให้กับผู้ใช้งาน

ประเภทของนามสกุลโดเมน

นามสกุลโดเมน (Domain name extension) หรือที่เรียกอีกชื่อว่า Top-Level Domain (TLD) เป็นส่วนท้ายของชื่อโดเมนหลักที่ใช้เพื่อระบุประเภทหรือลักษณะของเว็บไซต์หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับโดเมนนั้น มีหลายประเภทของโดเมนที่สามารถใช้ได้ เช่น

  • โดเมนทั่วไป (Generic Top-Level Domains) : เป็นนามสกุลโดเมนที่ใช้ทั่วไปและเปิดให้ใช้งานสำหรับบุคคลทั่วไปหรือองค์กรต่าง ๆ ดังนั้น หลาย ๆ คนสามารถจดทะเบียนนามสกุลเหล่านี้ได้ ตัวอย่างเช่น
    • .com : สำหรับองค์กรทางธุรกิจและบุคคลทั่วไป
    • .net : สำหรับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและบริการที่เกี่ยวข้อง
    • .org : สำหรับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรทางการกุศล
  • โดเมนระดับองค์กร (Sponsored Top-Level Domains) : เป็นนามสกุลโดเมนที่จัดสรรและจัดการโดยองค์กรหรือกลุ่มที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มหรือส่วนที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น
    • .gov : สำหรับรัฐบาลและหน่วยงานรัฐบาล
    • .edu : สำหรับสถาบันการศึกษา
    • .aero : สำหรับอุตสาหกรรมการบิน
    • .museum : สำหรับพิพิธภัณฑ์
  • โดเมนระดับประเทศ (Country Code Top-Level Domains) : เป็นนามสกุลโดเมนที่ใช้ระบุประเทศหรือพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ แต่บางครั้งอาจมีการใช้งานโดยบุคคลหรือองค์กรทั่วไปด้วย ตัวอย่างเช่น
    • .th : สำหรับประเทศไทย
    • .uk : สำหรับสหราชอาณาจักร
    • .jp : สำหรับประเทศญี่ปุ่น
    • .cn : สำหรับประเทศจีน
    • .au : สำหรับประเทศออสเตรเลีย

นอกจากนี้ยังมีนามสกุลโดเมนที่มีความเฉพาะเจาะจงอื่น ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นโดยองค์กรหรือกลุ่มเฉพาะที่ได้รับการอนุมัติจากองค์กรอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น .biz (สำหรับธุรกิจ), .travel สำหรับธุรกิจด้านการท่องเที่ยว, .shop (สำหรับธุรกิจขายของ), .info (สำหรับข้อมูล), .name (สำหรับบุคคล), .pro (สำหรับมืออาชีพ), และอื่น ๆ

สรุป

ชื่อโดเมนเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้งานป้อนในเบราว์เซอร์เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ มันช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น โดยมีหลายประเภทของชื่อโดเมน เช่น โดเมนทั่วไป, โดเมนระดับประเทศ, โดเมนระดับองค์กร แล้วก็ยังมีโดเมนที่มีความเฉพาะเจาะจงอีกด้วย ถ้าไม่มีความจำเป็นส่วนใหญ่ก็จะเลือกใช้โดเมนทั่วไป เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้ชื่อโดเมนและโดเมนทำงานอย่างไร หากคุณต้องการตั้งชื่อโดเมนของคุณ เราแนะนำให้คุณเรียนรู้ เคล็ดลับในการเลือกชื่อโดเมนที่ดี คุณจะได้ไม่ผิดพลาดหรือเสียใจที่หลังจนต้องใช้ชื่อโดเมนใหม่